การใส่ปุ๋ยฝรั่ง
พันธุ์ ฝรั่งที่ปลูกในประเทศไทยมีหลายพันธุ์ แต่ที่นิยมใช้รับประทานผลสด ได้แก่ ฝรั่งพันธุ์ที่มีผลใหญ่ ผลดก รสอร่อย เช่น พันธุ์กมลสาลี่ แป้นสีทอง ทูลเกล้า นอกจากนี้ยังมีพันธุ์พื้นเมืองต่างๆ พันธุ์อินเดีย พันธุ์จีน เป็นต้น สำหรับฝรั่งที่นำมาใช้แปรรูป ได้แก่ พันธุ์บังมองท์ และพันธุ์คาฮังคูล่า เนื่องจากทั้งสองพันธุ์มีเนื้อสีชมพู มีกลิ่นหอม รสกลมกล่อม
การเตรี่ยมดิน ก่อนทำการปลูกให้ไถพรวนดิน กำจัดวัชพืช และตากดินทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ ต่อจากนั้นให้ไถซ้ำเพื่อให้ดินละเอียดอีกครั้ง พื้นที่ในการปลูกฝรั่งต้องเป็นสภาพดินที่มีอินทรียวัตถุสูง มีการระบายน้ำได้ดี หากปลูกในแหล่งที่ดินไม่อุดมสมบูรณ์ ควรปรับปรุงดินให้มีค่าความเป็นกรด-ด่าง และมีความเหมาะสมในการเพาะปลูกเสียก่อน โดยการใส่ปุ๋ยหมักหรือใส่ปูนโดโลไมท์ลงไป
การปลูก ใช้ระยะการปลูกที่เหมาะสมระหว่าง 4×4 เมตร หรือ 6×6 เมตร เพื่อทำให้อากาศสามารถถ่ายเทได้ดี สะดวกต่อการดูแลรักษา ช่วยลดปัญหาเรื่องโรคและแมลงรบกวน ขุดหลุมปลูกให้มีความกว้างและลึกประมาณ 50 ซม. ใช้ปุ๋ยคอก 0.5 กก./หลุม ผสมดินรองก้นหลุมให้สูงประมาณ 1 ฝ่ามือ หรือใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-8 หลุมละ 1 กำมือก็ได้ นำกิ่งพันธุ์ลงปลูก กลบดินให้สูงกว่าปากหลุมเล็กน้อย ปักไม้ข้างหลุมปลูกใช้เชือกผูกต้นฝรั่งยึดติดไว้ รดน้ำให้ชุ่ม หลังจากปลูกไปประมาณ 6 เดือน ก็สามารถติดดอกออกผลให้เก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี
การให้น้ำ หลังจากปลูกฝรั่งแล้วต้องหมั่นคอยรดน้ำในช่วงระยะแรกจนกว่าต้นฝรั่งจะตั้งตัวได้หลังจากนั้นก็ต้องสังเกตดูความชุ่มชื้นของดิน ถ้าดินแห้งมากต้องรีบให้น้ำ และถ้ามีฝนตกหนักก็ควรระบายน้ำออกบ้าง การให้น้ำจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามความต้องการของต้นฝรั่ง ปริมาณความชื้นของดินในระหว่างการออกผลมีความสำคัญ เพราะจะก่อให้เกิดการร่วง การแตก และขนาดของผล
การใส่ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ฝรั่งเมื่อออกดอกแล้วจำเป็นต้องให้น้ำและปุ๋ยไนโตรเจนเพื่อให้ผลผลิตสูงขึ้นทุก ๆ ปี ควรให้ปุ๋ยประมาณ 2 กิโลกรัม/ต้น/ปี หรือมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับอายุของต้นและปริมาณผลผลิตและหากจะให้ฝรั่งมีรสหวานยิ่งขึ้นให้ใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 8-24-24 พ่นก่อนเก็บผล 1 เดือน จากนั้นประมาณ 15 วันจึงเก็บผล
การเก็บเกี่ยว ฝรั่ง นับจากดอกบานจนถึงผลแก่พร้อมที่จะเก็บเกี่ยวได้จะใช้เวลาประมาณ 5 เดือน ฝรั่งที่เชื้อโรคเข้าทำลายได้ง่ายยังอ่อน ผิวจะมีสีเขียวเข้ม เมื่อเริ่มแก่สีเขียวจะจางลงและเต่งตึงเป็นมัน ไม่ควรเก็บผลที่ยังไม่แก่เต็มที่เพราะยังมีการสร้างแป้งและสีไม่เต็มที่ ผลจะนิ่ม การเก็บเกี่ยวควรใช้กรรไกรตัดขั้วผลมาด้วยโดยไม่ต้องเอาถุงพลาสติกที่หุ้มผลฝรั่งออกเพื่อประหยัดเวลา ถ้าหากไม่มีขั้วติดผลจะทำให้ฝรั่งเสื่อมคุณภาพเร็วและอาจถูก
โรค 1. โรคจุดสนิม เกิดจากเชื้อราเข้าทำลายใบ โดยจะเห็นจุดขนาดเล็ก เริ่มจากจุดสีเขียวแล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีสนิมเหล็ก และเป็นขุยคล้ายกำมะหยี่ ถ้าเป็นที่กิ่งจะทำให้เป็นขุยและกิ่งแตกแห้งตายการป้องกัน ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรา เช่น มาแนบและซีแนบ หากเป็นที่กิ่งอาจใช้สารเคมีดังกล่าวผสมในปูนแดงข้น ๆ ทาบริเวณที่เป็นโรค
แมลง เพลี้ยแป้ง จะดูดกินน้ำเลี้ยงตามใบอ่อน กิ่งอ่อน และช่อดอกทำให้แห้งเฉาหรือใบผิดรูปร่างและผลผลิตลดลงการป้องกัน พ่นด้วยสารละลายอโซดริน 20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นให้ทั่วทั้งต้น ใบ กิ่งอ่อนและผลทุก ๆ 7 วัน ประมาณ 2-3 ครั้ง และหยุดพ่นสารเคมีอย่างน้อย 7 วันก่อนเก็บเกี่ยว