-
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นพืชเศษฐกิจที่มีความสำคัญต่ออุสาหกรรมอาหารสัตว์ประมาณร้อยละ 94 ของผลผลิตทั้งหมด ใช้ในกระบวนการผลิตอาหารสัตว์ของประเทศ และมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นทุกปี จนในบ้างปีต้องมีการนำเข้า มีพื้นที่ปลูกประมาณ 7.9 แสนไร่ ให้ผลผลิต 4.5 ล้านต้น ปัจจุบันร้อยละ 90 ของพื้นที่ปลูกใช้พันธุ์ลูกผสม ทำให้ผลิตผลิตเฉลี่ยต่อไร่ ในปี2529/30 เป็น 582 กิโลกรัมต่อไร่ ในปี 2543/44 การผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์นอกจากจะต้องเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้มีปริมาณเพียงพอ กับความต้องการของอุสาหกรรมอาหารสัตว์ ยังต้องเน้นการผลิตให้มีคุณภาพ ปอดจากการปนเปื้อนของสารอะฟลาทอกซิน ซึ่งเป็นพิษต่อสัตว์และมนุษย์ที่บิโภค ส่วนใหญ่จะเกิดระหว่างการเก็บเกี่ยวและการรักษาเมล็ดข้าวโพด
1.แหล่งปลูก
1.1 สภาพพื้นดิน
- พื้นที่ดอน หรือลุ่มที่ไม่มีน้ำท่วมขัง
- ความสูงจากระดับน้ำทะเลไม่เกิน 1,000 เมตร
- ความลาดเอียงไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์
- การคมนาคมสะดวก สามารถนำผลผลิตออกสู่ตลาดได้รวดเร็ว
1.2 ลักษณะดิน
- ดินร่วน ดินร่วนเหนียว ดินร่วนทราย หรือดินเหนียว
- ความสมบูรณ์ปานกลาง มีอินทรียวัตถุไม่ต่ำกว่า 1.0 เปอร์เซ็นต์ มีฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ไม่น้อยกว่า 10 ส่วนในล้านส่วนโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ไม่น้อยกว่า 60 ส่วนในล้านส่วน
- การระบายน้ำและถ่ายเทอากาศดี
- ระดับหน้าดินลึกไม่น้อยกว่า 25 ซม.
- ค่าความเป็นกรดด่างระหว่าง 5.5-7.0
1.3 สภาพภูมิอากาศ
- อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต 25-35 องศาเซลเซียส
- ปริมาณน้ำฝนที่กระจายสม่ำเสมอ 1,00-1,200 มิลลิเมตรต่อปี
- มีแสงแดดจัด
1.4 แหล่งน้ำ
- ส่วนใหญ่อาศัยน้ำฝน
- ควรวางแผนให้ได้รับน้ำฝนในช่วงผสมเกสร หรือเมื่ออายุ 50-60 วันหลังปลูก เพื่อให้ติดเมล็ดได้ดี
2.พันธุ์
-
พันธ์ที่นิยมปลูก
มีอายุเก็บเกี่ยว 100-120 วัน แหล่งปลูกที่สำคัญได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ สระบุรี ลพบุรี นครราชสีมา เพชรบูรณ์ สุโขทัย และเลย มี 2 กลุ่ม
-พันธุ์ลูกผสม พันธุ์?ฯญฒ)ลูกในปัจุบัน มี 7 พันธุ์คือ ซีพีดีเค 888, ไพโอเนีย 3013, แปซิฟิค 983, คาร์กิลล์ 919, เทพีวีนัส 49, นครสวรรค์ 72 และสุพรรณบุรี 3851
-พันธุ์ผสมเปิด ได้แก่ พันธุ์สุวรรณ1,สุวรรณ2,สุวรรณ5 และนครสวรรค์1
3. การปลูก
การเตรียมดิน ไถดินด้วยผาล 3 หรือผาล 7 ให้มีความลึก 8-10 นิ้ว แล้วตากดินไว้ประมาณ 7-15 วัน และทำการไถแปรอีก 1-2 ครั้ง
วิธีการปลูก
-
ปลูกด้วยแรงงาน
-ระยะระหว่างแถว 75 ซม. ระยะระหว่างหลุม 25 ซม. อัตราปลูก 8,500 ต้นต่อไร่ ใช้เมล็ดพันธุ์ 3-4 กิโลกรัมต่อไร่
-ใช้จอบขุดเป็นหลุมหรือแทกฃรกเตอร์ติดหัวเป็นร่อง หยอดเมล็ดหลุมละ 1-2 เมล็ด กลบดินให้แน่น
-เมื่อข้าวโพดอายุประมาณ 14 วัน หลังงอกถอนแยกให้เหลือหลุมละ 1 ต้น
-
ปลูกด้วยเครื่องปลูก
-ใช้แทรกเตอร์ลากจูงเครื่องปลูกพร้อมใส่ปุ๋ยติดท้าย ปรับให้มีระยะระหว่างหลุม 20 ซม. จำนวน 1 ต้นต่อหลุมหรืออัตราปลูกประมาณ 10,600 ต้นต่อไร่ 2-3 กิโลกรัมต่อไร่โดยไม่ถอนแยก
4. การดูแลรักษา
4.1 การให้ปุ๋ย 5 นางฟ้าทรงฉัตร
- ดินเหนียวสีดำ ถ้ามีฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์สูงกว่า 10 ส่วนในล้านส่วน ให้ปุ๋ยเคมีสูตร 21-0-0 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ หรือสูตร 30-0-0 ตรา 5 นางฟ้าทรงฉัตร โรยข้างแถวหลังปลูก 20-25 วัน ถ้ามีฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ต่กว่า 10 ส่วนในล้านส่วน ให้ปุ๋ยเคมีสูตร 16-20-0 อัตรา 40 กิโลกรัมต่อไร่หรือสูตร 16-16-8 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่รองก้นร่องพร้อมปลูก และให้ปุ๋ยสูตร 30-0-0 อัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่ หรือสูตร 21-0-0 อัตรา 20 กิโลกรัมต่อไร่ โรยข้างแถวหลังปลูก 20-25 วัน แล้วพรวนดินกลบ
- ดินเหนียวสีแดง ดินเหนียวสีน้ำตาล หรือดินร่วนดหนียวสีน้ำตาล ให้ปุ๋ยสูตร 16-20-0 หรือ 16-16-8 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ รองก้นร่องพร้อมปลูก และให้ปุ๋ยเคมีสูตร 21-0-0 อัตรา 30 กิโลกรัมต่อไร่ หรือสูตร 30-0-0 อัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร โรยข้างแถวหลังปลูก 20-25 วัน แล้วพรวนดินกลบ
- ดินร่วน หรือดินร่วนทราย ให้ปุ๋ยเคมี 5 นางฟ้าทรงฉัตร สูตร 16-16-8 หรือสูตร 15-15-15 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร รองก้นร่องพร้อมปลูก และให้ปุ๋ยเคมีสูตร 21-0-0 อัตรา 30 กิโลกรัมต่อไรโรยข้างแถวหลังปลูก 20-25 วัน แล้วพรวนดินกลบ
4.2 การให้น้ำ
ครั้งที่ 1 หลังจากการปลูก
ครั้งที่ 2,3 ห่างจากการให้น้ำครั้งที่ 1 ครั้งละ 15 วันเท่าๆกัน
ครั้งที่ 4,5,6 ห่างจากการให้น้ำครั้งที่ 3 ครั้งละ 7 วันเท่าๆกัน
ครั้งที่ 7,8,9 ห่างจากการให้น้ำครั้งที่ 6 ครั้งละ 5 วันเท่าๆกัน
ครั้งที่ 10,11,12 ห่างจากการให้น้ำครั้งที่ 9 ครั้งละ 7 วันเท่าๆกัน
5. การป้องกันกำจัดศัตรูพืช
- วัชพืช กำจัดวัชพืชเมื่อข้าวโพดอายุ 15-20 วันพร้อมกับพรวนดิน โดยใช้แรงคนหรือถ้าใช้สารเคมีให้ใช้ก่อนและหลังข้าวโพดงอก เช่น สารอะลาคลอร์,เมโทลาคลอร์,ไกลโพเสท เป็นต้น
- โรค ได้แก่ โรคราน้ำค้าง,โรคใบไหม้แผลเล็กและโรคราสนิม ป้องกันโดยการถอนต้นที่เป็นโรคเผาทำลาย หรือใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืช เช่น เมตาแลกซิล
- แมลง ได้แก่
หนอนเจาะลำต้นข้าวโพดกำจัดโดยสารคาร์โปฟูแรน (ฟูราดาน 3% G)
หนอนเจาะฝักข้าวโพด กำจัดโดยสาร คาร์บาริน (เซฟวิน 85% ) หรือเมโทมิล (แลนเนท)
หนอนกระทู้ข้าวโพด กำจัดโดยใช้เมโทมิล (แลนเนท) หรือโมโนโครโตฟอส (อะโซดริน)
-สัตว์ ได้แก่ หนู ป้องกันโดยการวางกับดัก ทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยและใช้เหยื่อผสมสารพิษในแปลงปลูกข้าวโพด
6.การเก็บเกี่ยว
- เก็บเกี่ยวเมื่อข้าวโพดแก่จัด หรือแห้งหมดทั้งแปลงแล้ว 7 วัน เมล็ดจะมีความชื้นประมาณ 23 เปอร์เซ็น
- ถ้าต้องการใช้พื้นที่ปลูกพืชอื่นตามข้าวโพด ควรเก็บเกี่ยวเมื่อใบข้าวโพดเปลี่ยนเป็นสีฟางทั้งแปลง เมล็ดจะมีความชื้นต่ำกว่า 25 เปอร์เซ็น
- ไม่ควรเก็บเกี่ยวข้าวโพดหลังฝนตกเพราะเมล็ดจะมีความชื้นสูง ควรปล่อยให้ฝักและต้นข้าวโพดแห้งก่อน