การปลูกและใส่ปุ๋ยมันสำปะหลังให้ผลผลิตสูงสุด|คลิ๊กที่นี่
https://www.facebook.com/akesuphan
สำหรับเกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลังอยู่แล้วและต้องการเพิ่มผลผลิตให้เพิ่มมากขึ้น
การปลูกมันสำปะหลังให้ได้ผลดีนั้นกรมวิชาการเกษตร จึงแนะนำหลักที่ดีที่สุดในการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง ดังนี้
1. การปรับปรุงดินให้เหมาะสมต่อการผลิตมันสำปะหลัง โดยการเพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดิน ได้แก่ การใช้สารปรับสภาพดิน,ปุ๋ยจากมูลสัตว์หรือเปลือกมันจากโรงงานแป้ง หรือปุ๋ยพืชสดจากปอเทืองและถั่ว เมื่อปลูกแล้วไถกลบในกรณีที่ดินถูกใช้งานมาเป็นเวลานาน ทำให้เกิดชั้นดินดานใต้ดินจากรถแทรกเตอร์ ทำให้น้ำระบายลงใต้ดินได้ยากในฤดูฝน เกิดปัญหาหัวเน่าจากน้ำท่วมขังในช่วงฤดูแล้ง มันสำปะหลังไม่สามารถใช้น้ำใต้ดินได้ ทำให้
ชะงักการเจริญเติบโต ดังนั้นควรไถระเบิดชั้นดินดาน หรือใช้หญ้าแฝกปลูกประมาณ 1 -2 ปี เพราะหญ้าแฝกมีระบบรากลึก สามารถทำลายชั้น
ดินดานได้ อีกทั้งเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุให้กับดินด้วย นอกจากนี้ยังสามารถใช้สารปรับสภาพดินจำพวกโดดลไมท์หรือภูไมท์ร่วมด้วยจะช่วยระเบิดดิน ทำให้ดินร่วนซุยดีขึ้น
2. การเลือกฤดูปลูกมันสำปะหลัง ควรเลือกวันปลูกเพื่อให้ช่วงอายุ 3-12 เดือน ของมันสำปะหลังได้รับฝนมากที่สุด เพราะผลผลิตมัันสำปะหลังขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝนในช่วงอายุดังกล่าวโดยการปลูกมันสำปะหลัง แบบอาศัยน้ำฝนจะให้ผลผลิตสูงสุด เมื่อปลูกในช่วงฤดูร้อน (กุมภาพันธ์-มีนาคม) รองลงมาคือ ต้นฤดูฝน (เมษายน –พฤษภาคม) และปลายฤดูฝน (ตุลาคม-พฤศจิกายน) แต่การปลูกในช่วงฤดูร้อน และปลายฤดูฝนมีข้อจำกัดของปริมาณน้ำฝนค่อนข้างน้อย มีผลต่อการงอกของท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง
3. การเลือกพันธุ์มันสำปะหลัง ดินที่ใช้ปลูกมันสำปะหลัง โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ดินร่วมเหนียวและดินร่วนปนทราย ดินร่วน
เหนียว ถือว่าเป็นดินดี ควรปลูกพันธุ์ระยอง 5 และระยอง 72 ส่วนดินร่วนปนทราย ควรปลูกพันธุ์เกษตรศาสตร์ 50ระยอง 90 ห้วยบง 60 และระยอง 9 เนื่องจากมันสำปะหลัง ทั้ง 4 พันธุ์ เมื่อนำไปปลูกในดินร่วนเหนียว จะเจริญเติบโตในส่วนของลำต้นที่อยู่เหนือดินมากกว่าลงไปเจริญที่หัวมันในดิน หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าขึ้นต้นหรือบ้าต้นเกินไป ส่วนพันธุ์ระยอง 7 นั้นเหมาะทั้งดินร่วนเหนียว และดินร่วนทรายที่มีความชื้นของดินดีตลอดช่วงของการเจริญเติบโต แต่ไม่เหมาะสมกับสภาพดินที่แห้งแล้ง
4. การเตรียมดินให้ลึก หลักสำคัญคือ ต้องไถดะ ครั้งแรกให้ลึกที่สุดด้วยผาล 3 หรือผาล 4 เท่านั้น ควรไถดะในขณะที่ดินมีความชื้น
พอเหมาะ ห้ามไถดะด้วยผาล 7 เพราะจะไถได้ไม่ลึกการไถดะให้ลึกจะเพิ่มความสามารถในการเก็บกักความชื้นของดินได้มากขึ้น และมันสำปะหลัง
ลงหัวได้ง่าย จากนั้นตาหน้าดินเพื่อให้วัชพืชตายถ้าเป็นดินร่วนเหนียวควรไถแปรครั้งที่ 2 ด้วยผาล 7 แล้วยกร่องพร้อมปลูก ส่วนดินร่วนทราย
ไม่จำเป็นต้องไถแปร ครั้งที่ 2 สามารถยกร่องพร้อมปลูกได้เลย ในกรณีที่เกษตรกรสามารถหาปุ๋ยอินทรีย์ สารปรับสภาพดิน และควรหว่านก่อนไถดะ
ประมาณ 500 - 1,000 กิโลกรัมต่อไร่ (10-20 กระสอบ)
5. การปลูกมันสำปะหลังที่ถูกต้อง ต้นพันธุ์ที่ใช้ปลูกควรมีอายุ 10 -12 เดือน จะให้ความงอกดีที่สุดโดยเลือกต้นพันธุ์ที่แข็งแรง มีตาถี่ขนาดโตพอสมควร ต้องตัดท่อนพันธุ์ด้วยมีด ที่คมเพื่อมิให้ท่อนปลูกซ้ำ ขนาดยาวไม่ต่ำกว่า20 เซนติเมตร ปลูกปักตรงให้ลึก 2 ใน 3 ของความยาวท่อนปลูกในดินร่วนเหนียวควรใช้ระยะแถวกว้าง 1.20 เมตร ระยะปลูกตั้งแต่ 0.50-1.00 เมตร และในดินร่วนปนทราย ควรใช้ระยะแถวแคบ 0.80 เมตร ระยะปลูก
ตั้งแต่ 0.50-0.80 เมตร
6. การกำจัดวัชพืช ภายในช่วย 3 เดือนแรกถือว่าเป็นช่วงสำคัญของการปลูกมันสำปะหลัง ต้องดูแลรักษาให้มันสำปะหลังปลอดวัชพืช
ถ้าปล่อยให้วัชพืชแข่งขันกับมันสำปะหลังทำให้มันสำปะหลังแคระแกร็น มีผลให้ผลผลิตลดลงมาก การกำจัดวัชพืชสามารถเลือกทำแบบผสมผสานโดยใช้จอบถาง ใช้รถไถเดินไถระหว่างร่อง ใช้สารเคมีประเภทคลุมก่อนวัชพืชงอก หรือสารเคมีฆ่าหลังวัชพืชงอก สารเคมีประเภทคลุมใช้ได้ผล
เฉพาะการปลูกต้นฤดูฝนเท่านั้น และห้ามใช้ไกลโฟเสทในขณะที่มันสำปะหลังต้นเล็กอยู่ เพราะจะทำให้มันสำปะหลังชะงักการเจริญเติบโต
7. การใส่ปุ๋ยเคมี ควรเลือก ใส่ปุ๋ยเคมีอัตราส่วน 2 : 1 : 2 ปุ๋ยเคมีที่แนะนำ คือ ปุ๋ยมันสำปะหลังสูตร 15-7-18 หรือ ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ โดยใส่ปุ๋ย 2 ข้างลำต้นรัศมีพุ่มใบแล้วพรวนดินกลบ ใส่ปุ๋ยให้มันสำปะหลังครั้งเดียวเมื่ออายุ 1 เดือน หลังจากปลูกและต้องใส่ปุ๋ยเคมีในขณะที่ดินมีความชื้นและต้องกลบปุ๋ยด้วย ถ้าไม่กลบปุ๋ย อาจสูญเสียปุ๋ยมากเกิน 50 เปอร์เซ็นต์
สำหรับการเก็บเกี่ยวควรเลือกเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังในช่วงที่เหมาะสม ตั้งแต่ 10-18 เดือน ควรงดเว้นการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังในช่วงฝนแรก คือตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน เนื่องจาก มันสำปะหลังแตกใบอ่อนจะให้เปอร์เซ็นต์แป้งต่ำ
8. การให้น้ำมันสำปะหลัง ควรให้น้ำในช่วงฤดูแล้ง เพื่อจะช่วยให้มันสำปะหลังมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง หรือทำให้ใบร่วงน้อย
ที่สุด ซึ่งจะมีผลทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นแต่ละเดือนอย่างก้าวกระโดด ดังนั้น การปลูกมันสำปะหลังเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุดต้องปลูกในช่วงฤดูฝน คือ
ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเมษายน มีการให้น้ำในช่วงสองเดือนแรกของการเจริญเติบโตตามความจำเป็น และให้น้ำเต็มที่ในช่วงฤดูแล้ง 5 เดือน ตั้งแต่
เดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม เก็บเกี่ยวที่อายุ 12 เดือน ผลผลิตจะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัว
การใส่ปุ๋ยเคมีมันสำปะหลังให้ได้ผลผลิตสูงสุด
|ปุ๋ยอ้อย|ปุ๋ยมันสำปะหลัง|ปุ๋ยยางพารา|ปุ๋ยข้าวโพด|ปุ๋ยปาล์ม|ปุ๋ยใส่ผักผลไม้|ราคาปุ๋ย